อัลกอริทึมของ เฟสบุ๊ก เป็นเหตุก็ว่าได้กับการจำกัดการใช้งานของหนุ่มรายหนึ่งที่โพสต์ขาย ข้าวแกงกะหรี่ แต่ระบบมองว่าเป็นการชี้ชวนทางเพศ (17 มิ.ย. 2565) ได้มีการพูดถึงกันอย่างแพร่หลายกับการที่ เฟซบุ๊ก (Facebook) ได้ทำการจำกัดการโพสต์แบบถ่ายทอดสด หรือลงโฆษณาเป็นระยะเวลาถึง 30 วัน ของผู้ใช้งานรายหนึ่ง เนื่องจากระบบอัลกอริทึมได้ตรวจจับผิดพลาดว่าการขาย ข้าวแกงกะหรี่ เป็นการชี้ชวนทางเพศ
ประเด็นที่ว่านั้น มาจากผู้ใช้งาน Facebook : Oat Chawarin ที่ได้ทำการตั้งโพสต์ขายอาหารโดยตั้งแคปชั่นภาพว่า ” มีใครรับข้าวแกงกะหรี่ไหมครับ ปิดร้าน 21:30 พร้อมส่ง”
โดยหลังจากนั้นซักพักหนึ่งระบบอัลกอริทึมของแพลตฟอร์มได้ทำการการจำกัดการโพสต์แบบถ่ายทอดสด หรือลงโฆษณาเป็นระยะเวลาถึง 30 วัน พร้อมทั้งแจ้งว่าโพสต์ดังกล่าวนั้นขัดต่อมาตรฐานของเราเกี่ยวกับการชักชวนทางเพศของผู้ใหญ่
ซึ่งเขาก็ได้ทำการแสดงความเห็นใต้โพสต์ที่ถูกจำกัดการมองเห็นเพิ่มเติมว่า “ขายข้าวแกงกะหรี่แหม่สู ต้องเป็นขายข้าวแกง 1,500 งี้เหรอ” โดยโพสต์ที่ว่านี้ได้มีทำการแบ่งปัน (แชร์) ออกไปแล้วถึง 711 ครั้ง พร้อมทั้งได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นเสนอความคิดใหม่ ๆ กันเป็นจำนวนมาก เพื่อเปลี่ยนชื่อเรียกแทนทีคำว่าข้าวแกงกระหรี่ เช่น ข้าวแกงจะหรี่, แกงเคอรี่, แกงโสภีนี – ข้าวแกงไซด์ไลน์ เป็นต้น
ในส่วนของคุณ Oat Chawarin ก็ได้ทำการเปิดร้านข้าวแกงกะ__ ญี่ปุ่น ณ ตลาดนัดรถไฟ ศูนย์การค้าเซ็นเตอร์พ้อยท์ จ.อุดรธานี
เสียดายแทน ! ลูกค้ากองสลากพลัส ซื้อลอตเตอรี่แต่ลืมจ่ายเงิน ชวดรางวัลที่ 1 เงินรางวัล 24 ล้านบาท ลั่น ! ต้องกลับไปทำงานหาเงินต่อไป กลายเป็นข่าวสุดอึ้ง ที่ทำเอาชาวเน็ตถึงกับร้องเสียดายแทน เมื่อทางผู้จัดจำหน่ายลอตเตอรี่รายใหญ่อย่าง นอท กองสลากพลัส ได้ออกมาเปิดเผยแชทระหว่างตนและลูกค้า ในช่วงหลังหวยออกเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา เมื่อลูกค้าหนุ่มของนอท ได้กดซื้อลอตเตอรี่เลขเด็ดไว้ถึง 4 ใบ แต่กลับพลาดลืมจ่ายเงิน ปรากฏว่าเลขชุดดังกล่าว ดันกลายเป็นเลขรางวัลที่ 1 ไปอย่างน่าเสียดาย
งานนี้ทำเอาหนุ่มนอท กองสลากพลัส ถึงกับต้องออกมาโพสต์เตือนลูกค้าคนอื่น ๆ เป็นอุทาหรณ์ผ่านหน้าเฟซบุ๊ก นอท พันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ ของตนว่า “โอยยย บอกได้คำเดียวว่าเสียดายแทนลูกค้ามากครับ ทุกครั้งที่ซื้ออย่าลืมโอน + แนบสลิปนะครับ ” ซึ่งทางด้านหนุ่มที่พลาดเงินรางวัลที่ 1 งวด 16 มิ.ย. 2565 มูลค่า 24 ล้านบาท ก็ได้กล่าวว่า “จบเลยครับ กลับไปทำงานต่อ ดวงไม่ได้ 555”
ทั้งนี้ หลังจากที่โพสต์ดังกล่าวของนอท กองสลากพลัส ได้กลายเป็นไวรัล ก็ทำเอาชาวเน็ตหลายคนถึงกับบ่นเสียดายและเครียดแทน เช่น “ถึงขั้นนอนไม่หลับอ่ะบอกเลย”, “ช้อคแทนเลยแบบนี้”, “เศร้าแทนเลยค่ะ”, “สวรรคล่มเลย” และ “ตายทั้งเป็นค่ะแบบนี้”
ตร. เตือน รถขับขี่อัตโนมัติ หาก ประสบอุบัติเหตุ คนขับรับผิด
ตำรวจเตือน รถขับขี่อัตโนมัติ หรือระบบ Autopilot หาก ประสบอุบัติเหตุ คนขับรับผิดเช่นเดิม เตือนคนขับมีสติอยู่ตลอดเวลา พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ได้กล่าวถึงกระแสที่ผู้ผลิตรถยนต์เริ่มนำ ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่มาติดตั้งในรถยนต์เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ขับขี่เป็นจำนวนมาก รวมถึงระบบขับขี่อัตโนมัติ หรือ Autopilot นำมาใช้ด้วย
โดย พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ระบุว่า ระบบทั้งหมดที่กล่าวมา มีจุดมุ่งหมายในการพัฒนาขึ้นเพื่อให้ความสะดวกสบายกับผู้ขับขี่ และลดจำนวนการเกิดอุบัติบนท้องถนน แต่ก็มีข้อคำถามของพี่น้องประชาชนว่า หากรถยนต์ที่มีระบบขับขี่อัตโนมัติ เกิดอุบัติเหตุ ใครจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดขึ้น
สำหรับกฎหมายของประเทศไทย ได้มีการกำหนดผู้รับผิดชอบเนื่องจากความเสียหายที่เกิดขึ้นจากยานพาหนะไว้ใน ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 437 ซึ่งบัญญัติไว้ว่า “บุคคลใดครอบครองหรือควบคุมดูแลยานพาหนะอย่างใด ๆ อันเดินด้วยกำลังเครื่องจักรกล บุคคลนั้นจะต้องรับผิดชอบเพื่อการเสียหายอันเกิดแต่ยานพาหนะนั้น เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าการเสียหายนั้นเกิดแต่เหตุสุดวิสัย หรือเกิดเพราะความผิดของผู้ต้องเสียหายนั้นเอง”
พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ กล่าวต่อว่า ดังนั้นผู้ที่ควบคุมยานพาหนะ ไม่ว่าจะมีระบบควบคุมอัตโนมัติหรือไม่ ก็ต้องรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้น หากอุบัติเหตุดังกล่าวมีต้นเหตุมาจากการขับขี่ของยานพาหนะคันที่ตนขับขี่หรือควบคุมอยู่ อีกทั้ง หากเกิดอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นดังกล่าวส่งผลให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต ผู้ที่ขับขี่หรือควบคุมรถยนต์ที่มีระบบช่วยเหลือการขับขี่ หรือระบบขับขี่อัตโนมัติ ไม่สามารถปฏิเสธความรับผิดตามกฎหมายได้ เนื่องจากตนมีหน้าที่ในการขับขี่หรือควบคุมรถยนต์คันดังกล่าว และอาจถูกดำเนินคดีในความผิดฐานกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต แล้วแต่กรณี
“จึงขอเตือนมายังพี่น้องประชาชน หากท่านใช้งานรถยนต์ที่มีระบบช่วยเหลือการขับขี่ หรือระบบขับขี่อัตโนมัติ ท่านจะต้องมีสติและพร้อมที่จะเข้าควบคุมรถตลอดเวลา เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุและความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สิน ทั้งของตนเองและผู้อื่น” พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ กล่าว
ทั้งนี้ หากพี่น้องประชาชนเกิดเจ็บป่วยกะทันหัน หรือเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน สามารถโทรศัพท์แจ้งขอความช่วยเหลือได้ที่ สายด่วนสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ 1669 สายด่วนตำรวจทางหลวง 1193 หรือสายด่วน 191 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
Credit : ที่เที่ยวญี่ปุ่น | จัดอันดับต่างๆ | รีวิวของแบรนเนม | วิธีการลงทุนต่าง