พร้อมไหม คืบหน้าวันลงทะเบียน คนละครึ่ง เราชนะ แจกเงิน 3,500 บาท

พร้อมไหม คืบหน้าวันลงทะเบียน คนละครึ่ง เราชนะ แจกเงิน 3,500 บาท

คืบหน้าโครงการเราชนะล่าสุด วันนี้ 17 ม.ค. 2564 ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี รายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กำชับกระทรวงการคลัง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมความพร้อมระบบรองรับการลงทะเบียน ทั้ง โครงการคนละครึ่ง ที่ปิดลงทะเบียนรอบเก็บตก เพิ่ม 1 ล้านสิทธ์

โครงการเราชนะ เยียวยาประชาชน 3,500 บาท  2 เดือน รวม 7,000 บาท 

โดยให้ดูความพร้อมของระบบเพื่อบริการประชาชน ลดช่องโหว่ต่างๆให้ได้มากที่สุด พร้อมอธิบายชี้แจงวิธีการลงทะเบียนอย่างเป็นขั้นเป็นตอน ให้ประชาชนรับทราบอย่างทั่วถึง ทุกช่องทางการสื่อสาร เพื่อสร้างการรับรู้และเข้าใจ รวมถึงป้องกันความเข้าใจคลาดเคลื่อนเกี่ยวกับมาตรการต่างๆของภาครัฐ

แอปเราชนะ – นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ตามที่ได้ปรากฏว่ามีการเผยแพร่ “แอปพลิเคชันลงทะเบียนเราชนะ” ตามสื่อต่างๆ นั้น กระทรวงการคลัง ขอเรียนว่า แอปพลิเคชันดังกล่าว ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับโครงการเราชนะของรัฐบาลและกระทรวงการคลังแต่อย่างใด ดังนั้น เพื่อมิให้เกิดความสับสน และความเข้าใจผิดเกี่ยวกับโครงการเราชนะของรัฐบาล จึงขอให้ประชาชนระมัดระวังในการอ่าน ส่ง หรือแชร์ข้อมูลต่าง ๆ ที่มิได้ถูกเผยแพร่อย่างเป็นทางการจากกระทรวงการคลัง

นอกจากนี้ กระทรวงการคลังขอเตือนผู้ที่มีพฤติกรรมแอบอ้างโดยมีเจตนาหลอกลวงหรือทำให้ประชาชนเข้าใจผิด ขอให้หยุดการกระทำดังกล่าวโดยหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องจะมีการตรวจสอบอย่างเข้มงวด และหากพบว่ามีการกระทำความผิดจะดำเนินการตามกฎหมายทันที ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีจะพิจารณาโครงการเราชนะในวันอังคารที่ 19 มกราคม 2564 นี้ และจะมีการแถลงข้อมูลที่เป็นทางการอย่างชัดเจน โดยสามารถติดตามสืบค้นข้อมูลข่าวสารและความคืบหน้าที่ถูกต้องเกี่ยวกับโครงการเราชนะ ได้จากแถลงข่าวกระทรวงการคลัง ในเว็บไซต์ www.mof.go.th หรือในเฟซบุ๊ก “สถานีข่าวกระทรวงการคลัง”

จากการลงมติให้มีการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 ในส่วนของสาธารณูปโภคพื้นฐานนั้น ทาง ครม. ได้มีคำสั่งให้หน่วยที่เกี่ยวข้องออก มาตรการเยียวยา และช่วยเหลือ ผ่านการ ลดค่าไฟฟ้า และค่าน้ำประปา แก่บ้านพักที่อยู่อาศัย รวมไปถึงกิจการขนาดเล็ก

โดยทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ประกอบด้วย การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.), การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ได้มีข้อสรุปให้ทำการลดค่าบริการไฟฟ้าเป็นระยะเวลา 2 เดือน ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ถึงเดือนมีนาคม ครอบคลุมผู้ใช้ไฟฟ้า 23.7 ล้านราย ใช้งบประมาณ 8.2 พันล้านบาท

ธปท.เผย โควิดระลอกใหม่ กระทบเศรษฐกิจรุนแรงน้อยกว่าระลอกแรก

ธปท. คาดการณ์ผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจจากการระบาดของโรคโควิด 19 ระลอกใหม่ไม่รุนแรงเท่าการระบาดระลอกแรกจากการมีบทเรียนและการปรับตัวของทุกภาคส่วน พร้อมเน้นย้ำมาตรการช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางต้องทันการณ์และตรงจุด

นางสาวชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การระบาดของโควิด 19 ระลอกใหม่ในไทย ที่แม้จะกระจายเป็นวงกว้างและเร็วกว่าการระบาดระลอกแรก แต่พบว่าความรุนแรงของโรคน้อยกว่า ขณะที่ความพร้อมด้านสาธารณสุขมีมากขึ้น รวมทั้งพัฒนาการของวัคซีนและแผนการได้รับวัคซีนของไทยเริ่มมีความชัดเจน ทำให้ ธปท. คาดการณ์ผลกระทบจากของการระบาดของโควิด 19 ระลอกใหม่ต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจจะไม่รุนแรงเท่าการระบาดระลอกแรก สะท้อนจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ลดลงน้อยกว่า นอกจากนี้ภาครัฐมีมาตรควบคุมการแพร่ระบาดในครั้งนี้เข้มงวดน้อยกว่า และภาคการส่งออกสินค้าที่ยังขยายตัวได้ตามเศรษฐกิจประเทศคู่ค้า

อย่างไรก็ดี การฟื้นตัวในระยะต่อไปจะต่างกัน ทั้งในเชิงพื้นที่ กลุ่มธุรกิจ และกลุ่มแรงงาน โดยพื้นที่ที่อยู่ภายใต้มาตรการควบคุมเข้มงวด 28 จังหวัด ซึ่งครอบคลุมสัดส่วนกิจกรรมทางเศรษฐกิจสูงเกินครึ่งของประเทศจะได้รับผลกระทบมากที่สุด ขณะที่ด้านกลุ่มธุรกิจจะมีกลุ่มที่เปราะบางเพิ่มเติมจากรายได้ที่ลดลงในช่วงนี้ โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจภาคบริการ นอกจากนี้ บางกลุ่มที่มีฐานะการเงินอ่อนแออยู่ก่อนแล้ว เช่น ธุรกิจในภาคการท่องเที่ยว จะได้รับผลกระทบจากการระบาดระลอกใหม่นี้เพิ่มเติม ส่วนผลกระทบด้านแรงงาน คาดว่ากลุ่มแรงงานในพื้นที่สีแดงที่มีมาตรการการควบคุมเข้มงวด มีความเสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบประมาณ 4.7 ล้านคน โดยส่วนใหญ่เป็นลูกจ้างรายวันและผู้มีอาชีพอิสระ ที่จะมีชั่วโมงการทำงานลดลงและมีรายได้ลดลงมาก

ในระยะข้างหน้า แนวโน้มเศรษฐกิจยังมีความไม่แน่นอน โดยมีปัจจัยมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 การกระจายวัคซีนในไทยและแผนการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ รวมถึงมาตรการภาครัฐที่จะช่วยพยุงเศรษฐกิจ อีกทั้งในปัจจุบัน หลายภาคธุรกิจและครัวเรือนมีฐานะการเงินที่เปราะบางมากขึ้นจากการระบาดระลอกแรก ทำให้ความสามารถในการรองรับแรงกระแทกทางเศรษฐกิจน้อยลง ดังนั้น การช่วยเหลือภาคธุรกิจและแรงงานอย่างทันการณ์เป็นเรื่องจำเป็นเร่งด่วน และต้องเน้นการเข้าถึงกลุ่มเปราะบางให้ทั่วถึงและตรงจุดมากที่สุด ซึ่งภาครัฐได้ทยอยออกมาตรการช่วยเหลือ รวมถึง ธปท. ที่ได้ออกมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้เพื่อบรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าว

รองศาสตราจารย์ ดร. นายแพทย์ภูดิท เตชาติวัฒน์ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาสุขภาพอาเซียน มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวทิ้งท้ายไว้ว่า “ทุกประเทศทั่วโลกยอมรับว่าการสาธารณสุขมูลฐานเป็นพื้นฐาน และเป็นหลักการสำคัญที่จะทำให้ทุกประเทศทั่วโลกบรรลุหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า (Universal Health Coverage) และบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ของโลก

Credit : ที่เที่ยวญี่ปุ่น | จัดอันดับต่างๆ | รีวิวของแบรนเนม | วิธีการลงทุนต่า