กองทัพอากาศ ไต้หวัน ได้ทำการฝึกซ้อมจำลองสถานการณ์รบ ภายในวันนี้ หลังจากจีนได้ทำการส่งเครื่องบินรบรุกล้ำน่านฟ้าเข้ามา ในพื้นที่ป้องกันภัยทางอากาศ เมื่อช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ไต้หวัน กำลังอยู่ในช่วงตื่นตัวภายหลังจากที่เครื่องบินรบ และเครื่องบินทิ้งระเบิดของ จีน ได้ทำการบินล้ำเข้ามาทางตะวันออกเฉียงใต้ของ พื้นที่น่านฟ้าระบุป้องกันภัยทางอากาศ (ADIZ) เมื่อวันเสาร์ และอาทิตย์ที่ผ่านมา ทำให้ กองทัพอากาศ ของไต้หวันนั้นได้ทำการบินตอบสนอง และเฝ้าระวังฝูงต่าง ๆ ของจีนอย่างต่อเนื่อง
ซึ่งหน้าที่ดังกล่าวนี้อยู่ภายใต้ขอบเขตของฐานบินทางตอนใต้ของเมืองไถหนัน
ที่ซึ่งกองบิน AIDC F-CK-1 Ching-kuo เครื่องบินรบป้องกันท้องถิ่น (Indigenous Defense Fighter (IDF)) ที่ได้มีการขึ้นบินอย่างต่อเนื่องตลอดทั้ง 2-3 วันที่ผ่านมา
โดยนักบินของกองบินรบเชิงยุทธวิธีที่ 1 (First Tactical Fighter Wing) ได้มีการเตรียมความพร้อมในการส่งเครื่องบินไปเมื่อได้รับสัญญาณเตือนขึ้นมาภายในเวลา 5 นาที พร้อมด้วยขีปนาวุธทางอากาศ Sidewinder และขีปนาวุธจากอากาศสู่ภาคพื้น Wan Chien ที่มีการพัฒนาขึ้นมาเอง เช่นเดียวกับเครื่องบินรบที่ใช้งานกันอยู่
พันเอก Lee Ching-shi ได้กล่าวว่า เครื่องบินของพวกเขานั้น ได้มีการเตรียมพร้อมในเชิงยุทโธปกรณ์ไม่ว่าจะเป็นปืนประจำเครื่อง และขีปนาวุธชนิดต่าง ๆ อยู่เสมอ เมื่อต้องทำการตอบสนองต่อการบินเข้ามาของเครื่องบินรบจากจีน นอกจากนี้เขายังได้กล่าวสมทบไปว่า พวกเขานั้นก็พร้อมที่จะตอบสนองทุกเมื่อ
เขายังได้กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า “พวกเรามีความพร้อมเสมอ เราาจะไม่ยอมยกดินแดนของเราให้แม้แต่นิ้วเดียว”
ถึงแม้ว่ากองทัพอากาศของไต้หวันนั้นจะมีการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี แต่ก็ยังถือว่าห่างชั้นในเรื่องของจำนวนเครื่องบินที่มีน้อยกว่าทางกองทัพอากาศจีนเป็นอย่างมาก และยังประสบปัญหาจากการทำการบินอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองต่อการรุกล้ำของจีน ที่ก็ได้ส่งผลต่อการบำรุงรักษา และสภาพร่างกายของนักบินอีกด้วย
Wang Chih-chan หนึ่งในนักบินของฝูงบิน ได้กล่าวถึงสถานการณ์นี้ว่า “เครื่องบินทั้งหมดนี้ต่างอยู่ภายใต้ปัญหา/ความกดดันเป็นอย่างมาก แต่ถึงกระนั้น ตราบเท่าที่กองทัพอากาศยังคงอยู่ที่นี้ เราก็จะยังมีการตอบสนองอ้างอิงตามกฎการเตรียมความพร้อมของสงครามเสมอ”
ซึ่งทางการจีนนั้น ก็ยังไม่มีการออกมาอธิบายทางสาธารณะต่อเหตุการณ์ดังกล่าว ว่าฝูงบินดังกล่าวนั้นไปทำอะไรในพื้นที่นั้น โดยทางอเมริกาก็ได้มีการเรียกร้องให้ทางการจีนยุติการกดดันไต้หวัน และได้มีการยึดมั่นในความตั้งใจที่มีต่อไต้หวันอีกด้วย ผ่านการส่งกองเรือบรรทุกเครื่องบินเข้าสู่พื้นที่ทะเลจีนใต้
ไบเดน ยกเลิก คำสั่งห้ามคนข้ามเพศร่วมกองทัพ
โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยังคงเดินหน้าแก้กฎหมายจากสมัยทรัมป์อย่างต่อเนื่อง ล่าสุด ยกเลิก คำสั่งห้ามคนข้ามเพศร่วมกองทัพ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เมื่อวันที่ 26 มกราคม สำนักข่าว CNN รายงานว่า นาย โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ลงนามคำสั่งพิเศษยกเลิกคำสั่งที่ห้ามคนข้ามเพศรับตำแหน่งในกองทัพ ซึ่งเป็นคำสั่งของนาย โดนัลด์ ทรัมป์ อดีตผู้นำสหรัฐฯ โดยคำสั่งดังกล่าวถูกประกาศใช้ตั้งแต่ปีแรกที่นาย ทรัมป์ เข้ารับตำแหน่ง
โดยนายไบเดนระบุว่า สิ่งที่เขาทำก็เพื่อให้ประชาชนชาวอเมริกันที่มีคุณสมบัติเป็นทหารได้ สามารถเข้ารับใช้ประเทศได้ทุกคน
ขณะที่ทางทำเนียบขาวระบุว่า จะไม่มีทหารนายไหนที่ถูกปลดประจำการหรือถูกไม่ปฏิเสธไม่ให้เข้ากรม เพราะเพศสภาพ ซึ่งทางทำเนียบขาวยืนยันอีกว่า จะมีการตรวจสอบกรณีการปลดประจำการกับกลุ่มคนข้ามเพศที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้
ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ อดีตผู้นำสหรัฐฯได้ระบุว่า สาเหตุที่ทางการจะไม่รับกลุ่มคนข้ามเพศเข้ามาในกองทัพเนื่องจาก ความยุ่งยากและค่าใช้จ่ายด้านการแพทย์มหาศาล อย่างไรก็ตามกฎหมายฉบับนี้จะไม่บังคับใช้กับเจ้าหน้าที่ข้ามเพศที่ประจำอยู่ในกองทัพอยู่แล้ว
หนุ่มขโมยรถลาก เพื่อเป็นแก้แค้นบริษัทเจ้าของรถที่เคยลากรถของเขาไปก่อนหน้านี้ สุดท้ายไปไม่รอดถูกจับ พร้อมโดนอีกอย่างน้อยสองข้อหา
เมื่อวันที่ 22 มกราคม สำนักข่าว ฟ็อกซ์ รายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจในรัฐฟลอริดาได้จับกุมนาย ไอมี อองโก ชายชาวอเมริกันวัย 30 ปี หลังจากที่ชายคนดังกล่าวได้ขโมยรถลาก ไปตั้งแต่ช่วงเย็น หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจตามหาชายคนดังกล่าว พวกเขาก็พบรถที่ถูกขโมยพร้อมกับผู้ก่อเหตุขับรถอยู้บนทางด่วนเมื่อช่วงเวลาประมาณเที่ยงคืน โดยเจ้าหน้าที่ได้สั่งให้ผู้ก่อเหตุหยุดรถ เพื่อคุยกับผู้ก่อเหตุ
โดยเจ้าตัวยอมรับว่าขโมยรถลากจริง เนื่องจากแค้นที่รถลากจากบริษัทดังกล่าวเคยลากรถของเขาไป นอกจากนี้จากการตรวจสอบยังพบว่าผู้ก่อเหตุยังมียาเสพติดอย่างน้อย 3 ชนิดในการครอบครอง ตำรวจได้ตั้งข้อหาโจรกรรมรถยนต์และมียาเสพติดไว้ในการครอบครัว ซึ่งรายงานล่าสุดระบุว่าผู้ก่อเหตุยังอยู่ในเรือนจำ
Credit : ที่เที่ยวญี่ปุ่น | จัดอันดับต่างๆ | รีวิวของแบรนเนม | วิธีการลงทุนต่าง